พิมพ์ออฟเซ็ท4สีกับสีพิเศษต่างกันอย่างไร

สารบัญ

– การเลือกใช้ระบบพิมพ์ควรเลือกใช้แบบไหนดี
     1.ระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท
     2.งานพิมพ์สีพิเศษ
– เลือกพิมพ์แบบไหนถึงจะตอบโจทย์กับงานพิมพ์

ระบบในการพิมพ์ในทุกวันนี้นั้นก็ถือมีให้เราได้เลือกใช้บริการกันอย่างมากมายหลายคนก็น่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าในการเลือกระบบการพิมพ์ให้มันเหมาะสมกับชิ้นงานของเรา ไม่ว่าจะเป็นระบบอะไรก็ตามแต่ ก็จะต้องมีคุณภาพ และมาตรฐานทัดเที่ยมกัน

การเลือกใช้ระบบพิมพ์ควรเลือกใช้แบบไหนดี?

      หลายๆคนนั้นก็อาจจะตัดสินใจเลือกใช้ระบบการพิมพ์ไม่ถูกว่าระบบไหนนั้นมันสามารถที่จะตอบโจทย์ได้ดีกว่ากัน ในวันนี้เราก็จะมาพูดถึง ระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ท 4 สี กับ ระบบสีพิเศษ ว่าทั้งสองรูปแบบนี้มันแตกต่างกันอย่างไร

     เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลในการสนับสนุนในการตัดสินใจว่าเราควรที่จะเลือกระบบการพิมพ์ในรูปแบบไหนเพื่อให้มันเหมาะสมกับงานของเราให้มากที่สุด และสามารถที่จะตอบโจทย์กับความต้องการ สามารถที่จะประหยัดต้นทุนในการผลิต

ที่สำคัญชิ้นงานที่ผลิตออกมานั้นก็จะต้องออกมาตรงกับความต้องการด้วย สำหรับใครที่อยากจะทราบกันแล้วว่าระบบทั้งสองระบบการพิมพ์ระบบไหนที่มันตอบโจทย์มากว่ากัน เราก็มาดูดกันเลย

1.ระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท

    ระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท ระบบนี้นั้นก็ถือได้ว่าเป็นระบบการพิมพ์ที่มีคุณภาพที่สูงเป็นอย่างมาก ถือเป็นมาตรฐานในการพิมพ์ที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพองชิ้นงาน ความละเอียดของเม็ดสีชนิดต่างๆ

    ระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทมีให้เราเลือกพิมพ์ 1 สี 2 สี 4 สี 5 สี หรือมากกว่านั้นก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอะไรก็สามารถพิมพ์ได้ทุกรูปแบบด้วยกัน เช่น พลาสติก กระดาษ ผ้า และอื่นๆอีกมากมาย ถ้าเลือกพิมพ์ระบบออฟฟเซ็ทถ้าจะให้คุ้มต้นทุนในการผลิตต้องมีจำนวนงานพิมพ์มากกว่า 3000 ชุดขึ้นไป ถ้าน้อยกว่านี้ไม่แนะนำให้เลือกใช้ระบบนี้เพราะไม่คุ้มค่า

ข้อดีของระบบออฟเซ็ท

สามารถตอบโจทย์กับความต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการพิมพ์ ความสวยงาม สามารถเลือกพิมพ์ได้มากมายหลากหลายสี โดยส่วนใหญ่ชิ้นงานที่เลือกพิมพ์ในระบบออฟเซ็ทเป็นพวก พิมพ์แผ่นพับ พิมพ์ในปลิว พิมพ์หนังสือ วารสารต่างๆ นิตยสาร โบรชัวร์ และอื่นๆ ทำให้ชิ้นงานมีสีสันที่สวยงาม มีคุณภาพที่สูง สามารถพิมพ์สีพิเศษได้อีกด้วย เรียกได้ว่า ระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทนั้นมันก็เป็นระบบการพิมพ์ที่ตอบโจทย์และสามารถที่จะทำให้ชิ้นงานออกมาถูกใจลูกค้าทุกคนอย่างแน่นอน

ระบบการพิมพ์ 4 สีหรือ CMYK เป็นระบบการพิมพ์ที่ได้รับความนิยมอยู่เหมือนกัน จะประกอบไปด้วย สีฟ้า สีชมพู สีเหลือง และ สีดำ โดยนำสีมาพิมพ์ซ้อนทับกันเพื่อที่จะได้ทำให้เกิดภาพที่เป็นสีสันต่างๆ ขึ้นมา ในแนวทางการพิมพ์นั้น ก็จะใช้ 4 สีนี้แหละมาเป็นแม่สีแล้วนำมาผสมเพื่อให้เกิดเป็นสีสันต่างๆ

การสร้างชิ้นงานด้วยระบบการพิมพ์ 4 สี

     ฉะนั้นถ้าหากเราจะสร้างชิ้นงานด้วยระบบการพิมพ์ในรูปแบบนี้เราก็จะต้องมีการตั้งค่าไฟล์งานจากโปรแกรมที่เราออกแบบก่อนไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Illustrator หรือ Indesign เราก็จะต้องมีการตั้งค่าโหมดสีให้เป็นในรูปแบบ CMYK ก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานอะไรก็แล้วแต่ถ้าได้เลือกโหมดสีชนิดนี้แล้วพิมพ์ควบคู่กับเทคโนโลยีการพิมพ์ระบบออฟเซ็ตรับรองเลยว่ามันจะเป็นระบบการพิมพ์ที่จะตอบโจทย์กับชิ้นงานได้เป็นอย่างดี ทำให้ชิ้นงานที่ได้ผลิตออกจากระบบการพิมพ์ออฟเซ็ทนั้นก็จะมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และที่สำคัญมันจะทำให้ชิ้นงานออกมาดูดีมีความสวยงามสามารถที่ทำให้เพิ่มมูลค่ากับสินค้าได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น รับประกันได้เลยการเลือกพิมพ์ระบบ 4 สี ก็จะเป็นระบบที่ดีและตอบโจทย์กับทุกๆ ความต้องการได้อีกด้วย

2.งานพิมพ์สีพิเศษ

     งานพิมพ์สีพิเศษ โดยปกติแล้วนั้นในระบบงานพิมพ์ทั่วไปก็มักจะเลือกใช้ระบบ CMYK กัน ก็จะเป็นการใช้พวก สีเหลือง สีแดง สีฟ้า และ สีดำ โดยจะเป็นการพิมพ์ที่ทับกันจนทำให้เกิดสีที่เราต้องการ ถ้าหากเครื่องพิมพ์ที่เราเลือกใช้แล้วนำมาพิมพ์ในระบบนี้บางทีก็อาจจะทำให้สีออกมาไม่มีความสมบูรณ์กับความต้องการได้

     ถ้าหากเราเลือกใช้ระบบการพิมพ์แบบ 4 สี ไม่ขอแนะนำให้ใช้กับการพิมพ์งานพวกตัวอักษรที่มีลักษณะเป็นตัวเล็กมากๆ และยิ่งเป็นสีที่มีการผสมกันอีก มันก็จะทำให้อ่านไม่ออกและไม่สามารถที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงานได้อีกด้วยโดยส่วนใหญ่แล้ว การเลือกพิมพ์ตัวอักษรก็มักจะใช้สีดำ เป็นสีที่นิยมมากที่สุด เพราะการเลือกใช้สีดำนั้นมันก็จะส่งผลทำให้การอ่านและชิ้นงานออกมาดูดีมีความต้องการได้เป็นอย่างมากอีกด้วย แต่ถ้าหากดีไซน์ที่ส่งมาให้กับทางโรงพิมพ์มีการกำหนดสีตัวอักษรว่าจะต้องใช้สีนี้เท่านั้น เราก็อาจจะต้องมีการเลือกใช้สีพิเศษเข้ามาในระบบการพิมพ์ เพื่อให้ชิ้นงานที่เราต้องการนั้นสามารถที่จะมีสีสันตามรูปแบบที่เราต้องการได้

ดังนั้นในส่วนงานพิมพ์ที่เป็นลักษณะแบบนี้ก็จะมีการเลือกใช้ สีพิเศษ อาจจะเป็นกี่สีก็ได้ ตามที่เราต้องการ โดยช่างพิมพ์นั้นก็จะเข้ามาปาดสีที่มาผสมกันที่หน้าแท่นพิมพ์ แต่ในทุกวันนี้ก็ได้มีการจำหน่ายสีในระบบการพิมพ์ตามที่ลูกค้าต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้รูปภาพและสีนั้นก็จะออกมาตรงกับความต้องการได้ ทำให้ช่างนั้นเวลาที่กำลังสั่งพิมพ์ชิ้นงานอยู่นั้นก็จะทำให้ความสม่ำเสมอของสีก็จะมีความสมบูรณ์เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยสีที่เราเลือกใช้นั้น ก็จะตรงกับไกด์สีของระบบ Pantone ที่เราใช้เป็นสื่อการในการเลือกใช้สี

เนื้อสีของระบบนี้นั้นก็จะมีความสวยงามกว่าระบบ 4 สีที่เราเลือกใช้กันอยู่ด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วการเลือกใช้เทคโนโลยีสีพิเศษเข้ามาในงานพิมพ์ของเรานั้น ก็จะนิยมในงานพิมพ์พวกโลโก้ของสินค้าชนิดต่างๆ มันจะทำให้โลโก้ของเราสามารถที่จะพิมพ์สีออกมาได้ตรงกับความต้องการได้มากที่สุด ทำให้โลโก้ของเรามีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร และที่สำคัญ มันก็ยังสามารถที่จะทำให้สีที่เราพิมพ์นั้นไม่มีความเพี้ยนอีกด้วย นับได้ว่าการเลือกระบบการพิมพ์สีพิเศษก็จะเป็นสิ่งที่สามารถที่จะช่วยทำให้เราประหยัดค่าเพบทค่าพิมพ์ และสามารถที่จะเลือกพิมพ์สีอะไรก็ได้อีกด้วย ฉะนั้นแล้วในการเลือกระบบการพิมพ์ชนิดนี้ เราก็จะต้องมีการออกแบบชิ้นงานออกมาให้เป็นอย่างดี และก็จะต้องเปรียบเทียบดูด้วยว่าชิ้นงานที่เราได้ผลิตไปนั้นมันตรงกับสีอะไรบ้าง สำหรับการเลือกพิมพ์สีพิเศษนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวก สีทอง เพราะสีทองนั้นจะเป็นสีที่ยากเป็นอย่างมาก และมันจะให้มีความเงาและด้านที่แตกต่างกันออกไป  หรือ บางคนก็อาจจะเลือกใช้สีเงิน โดยสีนี้ก็จะมีลักษณะเดียวกับสีทองแหละครับ ไม่ว่าจะนำไปใช้กับบรรจุภัณฑ์หรือชิ้นงานอะไรก็ตามแต่ ไม่ว่าจะเป็นสีทอง หรือ สีเงินนั้น มันก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

เลือกพิมพ์แบบไหนถึงจะตอบโจทย์กับงานพิมพ์

      ไม่ว่าจะเป็นระบบการพิมพ์แบบไหนก็ตามแต่ทั้งในรูปแบบการพิมพ์ CMYK หรือ สีพิเศษ ก็ล้วนมีความสำคัญทั้งสิน แต่ทั้งนี้ในการที่เราจะเลือกระบบสีนั้นเราก็จะต้องดูชิ้นงานที่ออกแบบมาด้วยว่ามันตรงกับสีที่เราได้เตรียมไว้หรือเปล่าเมื่อทุกอย่างมันสอดคล้องและลงตัวกันหมดแล้วเราก็จะต้องมีการเลือกระบบการพิมพ์ว่าเราอยากจะเลือกระบบไหนแต่ส่วนใหญ่แล้วการเลือกใช้ระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทก็เป็นระบบที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก

  ถือเป็นอีกหนึ่งระบบการพิมพ์ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการได้แทบจะทุกแบบและที่สำคัญมันยังสามารถที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆได้อีกด้วยถ้าหากเรามีการพิมพ์ในปริมาณที่เยอะและมากพอแต่ถ้าหากเราพิมพ์น้อยไปนั้นบางทีก็อาจจะไม่คุ้มค่าเพราะการที่เราพิมพ์ในปริมาณที่น้อยการเลือกพิมพ์ในระบบการพิมพ์แบบอื่นเช่น การพิมพ์แบบดิจิตอลนั้นก็จะเป็นระบบการพิมพ์ที่ค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ในส่วนนี้เพราะมันไม่ต้องไปสร้างแม่พิมพ์อะไรทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและในทุกวันนี้

    คุณภาพของชิ้นงานทั้งสีหรืออะไรก็ตามแต่ก็จะมีความใกล้เคียงกันอีกด้วยแทบไม่แตกต่างอะไรเลยทำให้ไม่ต้องกังวลหรอกนะครับว่ามันจะมีสีที่เพี้ยนหรือไม่สวยงาม ถึงแม้ว่าระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทจะมีต้นทุนที่สูงแต่ถ้าเราได้พิมพ์ในปริมาณที่เยอะๆนั้นรับรองเลยว่ามันจะตอบโจทย์และคุ้มค่ากันเป็นอย่างมากอีกด้วย

สรุป:

     ฉะนั้นแล้วเราจะเห็นได้ว่าระบบการพิมพ์ในทุกวันนี้ ตามโรงพิมพ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่ง โรงพิมพ์กล่อง เอง เลือกใช้บริการกันอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นระบบการพิมพ์แบบดิจตอลหรือระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทด้วยคุณภาพและคุณสมบัติการพิมพ์ก็แทบไม่แตกต่างกันอะไร ทั้งนี้เราก็จะต้องดูความต้องการของลูกค้าเป็นหลักว่ามีงบประมาณในการพิมพ์อยู่ที่เท่าไรแล้วอยากจะให้ชิ้นงานพิมพ์นั้นออกมาเป็นอย่างมาก

     ดังนั้นก็จะต้องดูถ้าเราพิมพ์เยอะก็ตัดสินใจไปเลย ระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทมันคุ้มค่าอย่างแน่นอนแต่ถ้าเรางบน้อยก็เลือกแบบดิจิตอลเพราะมันสามารถที่จะควบคุมต้นทุนในการพิมพ์ได้แถมทั้งสองระบบนี้ไม่ว่าจะพิมพ์โหมดสีอะไรก็ตามแต่มันก็สามารถที่จะตั้งค่าและจัดทำได้แทบทั้งหมด ทำให้ไม่ว่าจะเลือกพิมพ์ระบบอะไรมันก็สามารถที่จะตอบโจทย์ได้ทุกคนอย่างแน่นอนเพราะทั้งสองระบบนี้มันมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปแค่นั้นเอง